Category: เทพนพเคราะห์
-
เทพพระเกตุ
พระเกตุ พระอิศวรทรงสร้างจากพญานาค ๙ ตัว กายสีทองคำ ทรงนาคเป็นพาหนะ มีวิมานสีดอกบุษบา (เปลวไฟ) ประจำอยู่ในทิศท่ามกลาง บ้างว่า พระเกตุเกิดจากหางของพระราหู ซึ่งขโมยดื่มน้ำอมฤต พระอินทร์โกรธจึงขว้างจักรตัดเอวขาด ด้วยอำนาจแห่งน้ำอมฤตทำให้พระราหูไม่ตาย หางที่ขาดนั้นกลายเป็นพระเกตุ ซึ่งจะไม่เสวยอายุโดยตรง แต่จะเข้าแทรกเพื่อบรรเทาเรื่องร้ายและส่งเสริมในเรื่องดี สัญลักษณ์คือเลข ๙ ในคติฮินดู พระเกตุ เป็นน้องชายของพระราหู ที่เกิดจากท้าววิประจิตติ กับนางสิงหิกา แต่ส่วนมากนิยมว่า พระเกตุเป็นส่วนลำตัวของพระราหูที่ถูกจักรตัดออกไป พระราหูจึงมีแต่หัว ส่วนพระเกตุมีแต่ลำตัวที่ไม่มีหัว บ้างก็ว่าพระศุกร์ได้นำนาคมาผ่าเป็น ๒ ส่วน เพื่อมาต่อให้ราหูและเกตุ พระราหูมีหัวเป็นอสูรตัวเป็นเทพนาค พระเกตุมีหัวเป็นเทพนาคตัวเป็นอสูร ลักษณะของพระเกตุ ในคติไทย เป็นเทพบุรุษมีกายสีทอง มี ๒ กร ทรงพระขรรค์เป็นอาวุธ สวมมงกุฎยอดชัย สวมอาภรณ์สีทอง ทรงเครื่องประดับด้วยทองคำและแก้วโกเมน ทรงนาคเป็นพาหนะ ในคติฮินดู เป็นเทพอสูรมีกายสีส้มทองดังดอกทองกวาว กายใหญ่ มีเศียรใหญ่ นัยน์ตาสีแดงเลือด บ้างก็ว่าสีน้ำตาล มี มี ๔ กร…
-
เทพพระราหู
พระราหู พระอิศวรทรงสร้างจากหัวกะโหลก ๑๒ หัว (บางตำราว่าผีโขมด ๑๒ ตัว) บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีทอง พรมน้ำอมฤตได้เป็นพระราหู มีกายสีนิลออกไปทางทองแดง ทรงครุฑเป็นพาหนะ มีวิมาน สีนิลอยู่ในอากาศ ประจำอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ ให้ผลในทาง ลุ่มหลงมัวเมา เป็นมิตรกับพระเสาร์และเป็นศัตรูกับ พระพุธ สัญลักษณ์เลข ๘ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๑๒ การกำเนิดของพระราหูมี 4 ตำนานคือ ๑. ในฤคเวท พระราหู เป็นทานพนามว่า สวรรภานุ เกิดรู้สึกอิจฉาพระอาทิตย์ จึงจับพระอาทิตย์กลืนไว้ พระอินทร์จึงใช้จักรตัดหัวสวรรภานุและปลดปล่อยพระอาทิตย์ออกมา ๒. ในพุทธศาสนา พระราหู มีนามว่า พระอสุรินทราหู เป็นอุปราชคู่กับท้าวพรหมทัตตาสูร ยังเป็นโอรสท้าวเวปจิตติอสุรบดินทร์ผู้ครองอสูรพิภพ พระอสุรินทราหูได้ปกครองอสูรทางทิศเหนือ มีพละกำลังกล้าแกร่งมากกว่าอสูรทั้งหมด เป็นเทวดาตระกูลเนวาสิก ที่มีท้าวเวปจิตติเป็นใหญ่ ต่อมาท้าวสักกะได้ยึดอำนาจและขับไล่พวกเทวดาตระกูลเนวาสิก ลงมาจากเขาพระสุเมรุในขณะที่กำลังเมาสุรา ทำให้พวกเทวดาเหล่านี้ประกาศตนใหม่ว่าเป็นพวกอสุรา หรือ อสูร และสร้างเมืองอสูรขึ้นในหุบเขาตรีกูฏ ใต้เขาพระสุเมรุ นอกจากและยังเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตอีกด้วย ๓.…
-
เทพพระเสาร์
พระเสาร์ พระอิศวรทรงสร้างจากเสือ ๑๐ ตัว บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีดำ พรมด้วยน้ำอมฤตได้พระเสาร์มีสีกายดำคล้ำ ทรงเสือเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มีกิริยาดุดัน แข็งแรง กล้าได้กล้าเสีย บุคลิกเคร่งขรึม เป็นมิตรกับพระราหูและเป็นศัตรูกับพระศุกร์ สัญลักษณ์เลข ๗ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๑๐ ในคติฮินดู พระเสาร์ มีนามว่า พระศนิ เป็นบุตรของพระสูรยะ (พระอาทิตย์) กับพระนางฉายา ซึ่งเกิดจากเงาของพระนางศรัณยา เนื่องจากนางศรัณยาไม่อาจทนทานต่อแสงสุริยะได้ จึงได้สร้างนางฉายาขึ้นมา ให้นางฉายาอยู่กินกับพระสูรยะ จนให้กำเนิดบุตร เมื่อแรกเกิดพระศนิมีกายสีดำคล้ำ พระสูรยะไม่พอพระทัยและต่อว่านางฉายา พระศนิจึงใช้นัยน์ตาจ้องมองไปที่พระสูรยะ ทำให้ดวงอาทิตย์ดับมืดลง ประดุจเกิดสุริยุปราคา เมื่อพระสูรยะขออภัยต่อนางฉายา ดวงอาทิตย์จึงกลับมาสว่างดังเดิม พระสูรยะทรงเห็นดังนี้จึงไม่พอพระทัยอย่างมาก และรังเกียจบุตรผู้นี้ วันหนึ่งพระศนิเกิดเรื่องวิวาทกับพระยม นางฉายาได้เข้ามาห้าม พระยมไม่พอใจจึงเตะนางฉายาด้วยเท้า นางจึงสาปให้พระยมขาพิการ มีแผลเน่าและมีหนอนเจาะแทะแผล พระยมจึงนำเรื่องไปฟ้องพระสูรยะ พระสูรยะจึงรู้ว่านางฉายาไม่ใช่นางศรัณยา พระสูรยะได้เสกไก่แจ้มารักษาหนอนและรักษาแผลให้ และได้ไปไต่ถามความจริงจากนางฉายา และตามหานางศรัณยาจนเจอ และพานางกลับมาที่สูรยโลก เมื่อนางศรัณยากลับมานางฉายาจึงกลับไปรวมร่างกับนางศรัณยา พระศนิเศร้าโศกและโกรธเป็นอย่างมาก ความร้าวฉานมีมากขึ้น วันหนึ่ง…
-
เทพพระศุกร์
พระศุกร์ พระอิศวรทรงสร้างจากโค ๒๑ ตัว บดป่นเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีฟ้าอ่อน พรมด้วยน้ำอมฤตเป็นพระศุกร์ มีผิวกายสีฟ้า ทรงโคเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศเหนือ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ กิริยาน่ารัก อ่อนหวาน ชอบงานศิลปะทุกประเภท เป็นมิตรกับพระอังคารและเป็นศัตรูกับพระเสาร์ สัญลักษณ์เลข ๖ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๒๑ พระศุกร์เป็นครูของเหล่ายักษ์ ในคติฮินดู พระศุกร์ เป็นบุตรของฤๅษีภฤคุ กับพระนางอุศนัส หรือ พระนางกาพยมาตา และเป็นสาวกเอกของพระศิวะ วิมานอยู่ทางศุกรโลก ด้านทิศเหนือ พระศุกร์ มีนามเดิมว่า พระภารควะ เป็นเทพฤๅษีผู้มีรูปงาม และได้หลงรักกับนางอัปสรวิศวาจี และถอดจิตตามนางไป ต่อมานางก็ทิ้งพระภารควะ พระภารควะจึงไปจุติเป็นเมล็ดข้าว และชาวนาได้นำข้าวไปถวายฤๅษี ภรรยาฤๅษีได้กินเข้าไป และได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตร ชื่อ ฤๅษีอุศนัส ส่วนนางอัปสรวิศวาจี ถูกฤๅษีนารทมุนีสาปให้กลายเป็นกวาง และได้มาพบกับฤๅษีอุศนัส และได้สมสู่กันจนมีบุตร ในขณะนี้ดวงจิตของพระภารควะยึดติดในกาม และต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ฝ่ายฤๅษีภฤคุที่เข้าฌานไปเป็นเวลานาน เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบร่างของบุตรตนไม่มีชีวิต ท่านจึงไปพบพระยมในยมโลก เพื่อถามหาวิญญาณของบุตรตน แต่พระยมกล่าวว่าตอนนี้พระภารควะได้ไปเกิดเป็นพราหมณ์และกำลังจะใช้กรรมหมดแล้ว ฤๅษีภฤคุจึงขอให้พระยมนำดวงจิตของพระศุกร์คืนมา เมื่อพระภารควะกลับเข้าร่างเดิมแล้วก็เริ่มเบื่อหน่ายในชีวิต…
-
เทพพระพฤหัสบดี
พระพฤหัสบดี พระอิศวรสร้างจากฤษี ๑๙ ตน บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีส้มแดง พรมน้ำอมฤตได้เป็นพระพฤหัสบดี มีผิวกายสีส้มแดง ทรงกวางเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันตก เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ มักทำอะไรด้วยความระมัดระวัง สุขุม รอบคอบ เมตตาปรานีต่อผู้อื่น เป็นมิตรกับพระอาทิตย์ และเป็นศัตรูกับพระจันทร์ สัญลักษณ์เลข ๕ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๑๙ เป็นครูของเทพทั้งหลาย จึงนิยมทำพิธีไหว้ครูในวันพฤหัสบดี ในคติฮินดู พระพฤหัสบดี เป็นบุตรของฤๅษีอังคิรส กับพระนางสมฤติ พระศิวะทรงแต่งตั้งให้เป็นคุรุแห่งเหล่าเทวดา ทรงเป็นทั้งเทวฤๅษี เทวคุรุ และเทวดานพเคราะห์ เป็นเทพประจำดาวพฤหัสบดี เป็นเทพแห่งสติปัญญา ความรู้ พลังญาณ การศึกษาเล่าเรียน เป็นเทพประจำเหล่าครูบาอาจารย์และฤๅษีมุนี พระพฤหัสบดี มีพี่ชาย ๒ องค์ คือ ฤๅษีอุตัถยะ และ ฤๅษีสังวรรตนะ พระพฤหัสบดีและนางมัมตา ชายาของฤๅษีอุตัถยะ ลักลอบเป็นชู้กัน เมื่อฤๅษีอุตัถยะรู้ จึงสาปให้บุตรในท้องของนางมัมตากลายเป็นคนตาบอด และสาปพระพฤหัสบดีว่า ในอนาคตชายาของพระพฤหัสบดีก็จะเป็นชู้กับผู้อื่น บุตรที่ตาบอดนั้น ชื่อว่า ฤๅษีทีรฆตมัส…
-
เทพพระพุธ
พระพุธ พระอิศวรทรงใช้ช้าง ๑๗ เชือก บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีเขียวใบไม้ พรมด้วยน้ำอมฤตได้บุรุษมีผิวกายสีเขียว ทรงช้างเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศใต้ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ ชอบพูดชอบเจรจา สุขุม รอบคอบ แต่ตื่นกลัวง่าย เป็นมิตรกับพระจันทร์ และเป็นศัตรูกับพระราหู สัญลักษณ์เลข ๔ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๑๗ ในคติฮินดู พระพุธ เป็นบุตรของพระจันทร์ กับนางตารา ชายาของพระพฤหัสบดี เมื่อตอนที่อยู่ในครรภ์ พระพฤหัสบดีสงสัยว่าบุตรในท้องของนางตารา เป็นบุตรของใครกันแน่ พระพุธผู้อยู่ในท้องของนางตาราได้ตอบออกมาว่าตนเป็นบุตรของพระจันทร์ นางตาราได้ยินก็โกรธมากจึงสาปบุตรในท้องให้กลายเป็นคนลักเพศ ส่วนพระพฤหัสบดีเมื่อได้ยินดังนั้นก็โกรธและใช้ไฟตบะของตนเผานางตาราเป็นเถ้าถ่าน ส่วนพระพุธนั้นไม่ได้ถูกเผาไหม้ไปด้วย พระพรหมได้ปรากฏกายขึ้น และกล่าวว่า นางตาราได้รับการชำระล้างบาปจากการถูกไฟเผาแล้ว และได้ชุบชีวิตให้นางตารา ส่วนพระพุธนั้น พระพฤหัสบดีทรงเลี้ยงดูไว้ และมอบความรู้และศิลปวิทยา เมื่อพระพุธอายุได้ ๓๐ ปี ก็ทรงจดจำได้ทุกศาสตร์ จนเป็นผู้ฉลาดปราชญ์เปรื่อง ต่อมาพระพุธได้ไปบำเพ็ญตบะในป่าสคันวัน และได้พบรักกับนางอิลา ซึ่งคือท้าวอิลราชที่ต้องคำสาปให้กลายเป็นหญิงเดือนหนึ่งชายเดือนหนึ่ง พระพุธได้บำเพ็ญตบะด้วยการบูชาศิวลึงค์ด้วยทรายเป็นเวลานาน และพบกับอุปสรรคจากสัตว์ร้ายมากมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้พระพุธหวาดหวั่น จนพระศิวะพอพระทัย และได้แต่งตั้งให้เป็นเทพประจำดาวพุธ เป็นเทพแห่งความฉลาดปราชญ์เปรื่องในญาณ พิธีกรรม มนตร์คาถา…
-
เทพพระอังคาร
พระอังคาร พระอิศวรทรงสร้างจากกระบือ ๘ ตัว บดป่นเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีชมพูหม่น พรมด้วยน้ำอมฤตได้บุรุษผิวสีทองแดง ทรงกระบือเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มีอารมณ์มุทะลุ ตึงตัง ชอบใช้กำลัง ใจร้อน เป็นมิตรกับพระศุกร์ และเป็นศัตรูกับพระอาทิตย์ สัญลักษณ์เลข ๓ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๘ ในคติฮินดู พระอังคาร มีนามว่า พระมังคละ หรือ พระมงคล ถือกำเนิดจากเหงื่อหรือเลือดของพระศิวะที่ทรงหยดลงในขณะทรงพระพิโรธกับการต่อสู้กับอันธกาสูร และพระแม่ธรณีได้รองรับไว้ กำเนิดเป็นกุมารกายสีแดงโลหิต มี ๔ กร บ้างก็ว่าเป็นบุตรของพระแม่ธรณีกับพระวิษณุในร่างพระวราหาวตาร เดิมมีนามว่า พระเภามะ พระเภามะได้เริ่มการบูชาพระศิวะ จนพระศิวะพอพระทัย และแต่งตั้งให้เป็นเทวดานพเคราะห์ อีกตำนานเล่าว่า พระมังคละ มีนามว่า พระโลหิตางค์ เกิดจากเหงื่อของพระศิวะในขณะที่ทรงสอนการร่ายรำตาณฑวะแก่นาฏยาจารย์ พระแม่ธรณีได้รองรับไว้ และยกกุมารนี้ให้อันธกาสูร พระโลหิตางค์ ได้ร่ำเรียนวิชากับนาฏยาจารย์ ต่อมาอันธกาสูรถูกพระศิวะสังหาร นางวฤษภานุ มเหสีของอันธกาสูรได้ยุยงให้พระโลหิตางค์ รบกับพระศิวะ พระโลหิตางค์ประชันดนตรีกับพระศิวะ และพ่ายแพ้ไป พระโลหิตางค์ได้สำนึกผิดและขอขมา พระศิวะทรงให้พรและแต่งตั้งให้เป็นเทวดานพเคราะห์…
-
เทพพระจันทร์
พระจันทร์ พระอิศวรทรงสร้างจากเทพธิดา ๑๕ นาง บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีขาวนวล พรมด้วยน้ำอมฤตได้บุรุษรูปงาม มีสีผิวกายขาวนวล ทรงอาชา (ม้า) เป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันออก เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ มีอารมณ์อ่อนโยน เพ้อฝัน รวนเร และอาจมีเล่ห์เหลี่ยมมาก พระจันทร์เป็นมิตรกับพระพุธ และเป็นศัตรูกับพระพฤหัสบดี สัญลักษณ์เลข ๒ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๑๕ ลักษณะของพระจันทร์ ในคติไทย เป็นเทพบุรุษ มีกายสีขาว มี 2 กร ทรงดอกบัวและพระขรรค์เป็นอาวุธ สวมมงกุฎน้ำเต้า สวมอาภรณ์สีขาว ทรงเครื่องประดับด้วยเงินและไข่มุก ทรงม้าเป็นพาหนะ ในคติฮินดู เป็นเทพบุรุษมีกาย สีขาวเงิน รูปร่างเล็ก เอวเล็ก มีรูปงาม มีรัศมีเย็นสีเงิน มี 4 กร ทรงดอกบัว คทา หม้อน้ำโสม ฯลฯ สวมมงกุฎสีเงิน สวมอาภรณ์สีขาว ทรงเครื่องประดับด้วยเงินและไข่มุก ประทับนั่งบนดอกบัว ทรงราชรถสีเงินเทียมม้าขาว 10 ตัว…
-
เทพพระอาทิตย์
พระอาทิตย์ เป็นเทพนพเคราะห์ที่มีอำนาจเหนือกว่าเทพ นพเคราะห์ทั้งปวง พระอิศวรทรงใช้ราชสีห์ ๖ ตัว ป่นเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีแดง พรมด้วยน้ำอมฤต ลักษณะเป็นบุรุษมีผิวกาย สีแดง ทรงราชสีห์เป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มักมีอารมณ์รุนแรง ตัดสินใจไว เฉียบขาด รักอิสระ แต่ซื่อสัตย์ เป็นมิตรกับพระพฤหัสบดี และเป็นศัตรูกับพระอังคาร สัญลักษณ์เลข ๑ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๖ ในพุทธศาสนาแบบเถรวาท พระอาทิตย์ หรือ สุริยเทพบุตร เป็นเทพบุตร ๑ ในเทพ ๓๓ องค์ ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานกว้าง ๑๕๐ โยชน์ ใหญ่ ๕๐ โยชน์ มีราชรถเทียมม้า ๑๐๐ ตัว เป็นผู้ขับเคลื่อนดวงอาทิตย์ ให้โคจรในทางทั้ง ๓ ทำให้เกิดฤดูกาล ทางนอกสุดเรียกว่า โคณวิถี ก่อให้เกิดเหมันตฤดู (ฤดูหนาว) ทางกลางเรียกว่า อัชวิถี ก่อให้เกิดคิมหันตฤดู…